เมื่อลูกแผลงฤทธิ์ก้าวร้าวหรือไม่ยอมอยู่นิ่ง แท็บเลตไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาแถมยังทำให้พัฒนาการช้าลง
เวลาพาลูกออกไปนอกบ้านแล้วแผลงฤทธิ์ ก้าวร้าว เอาแต่ใจ พ่อแม่หลายคนตัดปัญหาอย่างรวดเร็วด้วยการยื่นแท็บเลตให้ลูก เพราะในแท็บเลตเต็มไปด้วยความสนุกเพลิดเพลิน มีการ์ตูน เกม เพลง สารพัดรายการ ลูกจะนั่งนิ่ง เพ่งความสนใจไปยังสิ่งที่เห็นอย่างสงบเสงี่ยมว่าง่าย แต่รู้ไหมคะว่า การจดจ้องอยู่กับหน้าจอสี่เหลี่ยม ๆ นั้น จะใช้แค่ทักษะทางสายตาและการฟัง ไม่มีการโต้ตอบหรือใช้ความคิดสร้างสรรค์ จินตนาการใหม่ ๆ ไม่เกิดการพัฒนากล้ามเนื้อมัดใหญ่และเล็ก เช่น แขน ขา มือ เท้า แต่อย่างใด นอกจากนั้นยังทำให้ลูกขาดทักษะในด้านการพูด การสื่อสาร การเล่น การอยู่ร่วมกัน และการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น และยังมีแนวโน้มสมาธิสั้นอีกต่างหาก และไม่ใช่แค่แท็บเลตนะคะ คอมพิวเตอร์ มือถือ ไอแพด ล้วนส่งผลกระทบต่อพัฒนาการของลูกอย่างมากด้วยค่ะ
ล่าสุดกระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า ผลสำรวจสถานการณ์ระดับสติปัญญา (ไอคิว) และความฉลาดทางอารมณ์ (อีคิว) ของเด็กไทย ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ปี 2557 พบว่า เด็กไทยมีไอคิวเฉลี่ย 93.1 จุด ลดลงจากปี 2554 ที่ 94 จุด ซึ่งต่ำกว่ามาตรฐานโลกที่ 100 จุด พร้อมทั้งแนะนำให้พ่อแม่ใส่ใจลูกมากขึ้น ลดเวลาในการดูทีวี และเล่นเกมส์ลง แล้วหากิจกรรมอื่นทำดีกว่าค่ะ
รักลูกให้ถูกทาง อย่าเลี้ยงลูกด้วยแท็บเลต
กุมารแพทย์แนะนำว่า เด็กเล็กต่ำกว่า 2 ขวบ ไม่ควรให้ดูทีวี ใช้แท็บเล็ต สมาร์ทโฟน และคอมพิวเตอร์เลยนะคะ ส่วนวัย 2-4 ขวบไม่ควรดูนานเกินวันละครึ่งชั่วโมง เด็กวัย 4 ขวบขึ้นไปไม่ควรดูทีวีนานเกินวันละ 2 ชั่วโมง และพ่อแม่ควรนั่งอยู่ข้าง ๆ ลูกเสมอค่ะ เพื่อคอยสอนว่าสิ่งใดดี สิ่งใดไม่ดี ดังนั้น เวลาอยากให้ลูกอยู่นิ่ง อย่าโยนมือถือให้เล่น หรือเปิดการ์ตูนให้ดูนะคะ เปลี่ยนไปเป็นการวาดรูป เล่นของเล่นเสริมพัฒนาการดีกว่า ได้ทั้งความสนุกเพลิดเพลิน แถมยังสร้างจินตนาการ ความคิดสร้างสรรค์ด้วยค่ะ หรือถ้ามีเวลาก็ชวนลูกไปทำกิจกรรมการแจ้ง วิ่งเล่น ขี่จักรยาน เพื่อออกกำลังกาย ฝึกพัฒนาการของกล้ามเนื้อไปในตัวด้วยนะคะ
และเคล็ดลับที่จะช่วยให้ลูกสนุกกับการเรียนรู้ตลอดทั้งวัน แนะนำให้เลือกนมที่มีจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ เพื่อภูมิคุ้มกันที่ดี ร่างกายแข็งแรง และเรียนรู้ได้อย่างเต็มที่ค่ะ